LHALA Peel Lha La peel
นวัตกรรมการผลัดเซลล์ผิวรุ่นใหม่ เพื่อผิวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ
อ่อนโยน ไม่ระคายเคือง เหมาะแม้สำหรับผิวบอบบาง
- การผลัดเซลล์ผิวรุ่นที่ 4 ที่เน้นการ “บำรุง” ผิว ไม่ใช่แค่ “ผลัดเซลล์” ออกเท่านั้น
- เจ็บน้อย ระคายเคืองต่ำ แทบไม่ต้องพักฟื้น
- เผยผิวเนียนใสโกลว ฉ่ำวาว ด้วยการดูแลผิวแบบคู่ขนาน: ผลัดเซลล์ผิว + ฟื้นฟูผิวชั้นลึก
- อยากให้ผิวกระจ่างใส ดูเปล่งประกาย
- ต้องการลดความหมองคล้ำ ให้ผิวดูสดใสขึ้น
- กังวลเรื่องรูขุมขนอุดตันหรือผิวไม่เรียบเนียน
- เคยระคายเคืองจากการทำพีลลิ่งมาก่อน
- มีปัญหาสิวหรือผิวมัน
- มองหาการรักษาผิวที่ไม่ต้องพักฟื้น
สำหรับปัญหาหล่านี้
LHALA Peel
นวัตกรรมการผลัดเซลล์ผิวรุ่นใหม่ เพื่อผิวกระจ่างใส เรียบเนียน ฉ่ำวาว
LHALA Peel คือการผลัดเซลล์ผิวรุ่นที่ 4 จากประเทศเกาหลี ที่ช่วยฟื้นฟูผิวจากภายในอย่างอ่อนโยน โดยไม่ทำให้ผิวลอกหรือระคายเคืองรุนแรง
ปลอดภัยแม้สำหรับผิวบอบบาง ช่วยให้รูขุมขนดูกระชับ ลดความหมองคล้ำ และฟื้นคืนความชุ่มชื้นให้ผิวดูเปล่งปลั่ง
ด้วยส่วนผสมของ LHA (คล้ายกรดซาลิไซลิก) ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน และกระตุ้นการผลัดเปลี่ยนผิวใหม่ พร้อมทั้งเติมสารบำรุงที่ช่วยเสริม
เกราะป้องกันผิว
หลังทำ ผิวจะดูฉ่ำวาว เปล่งปลั่ง แทบไม่มีอาการลอกหรือพักฟื้น จึงสามารถแต่งหน้าได้ทันที
การทำอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ผิวใสขึ้นอย่างต่อเนื่อง
BIBI CLINIC
คุณลักษณะของ LHALA PEEL
-
บำรุงผิวให้เปล่งประกาย ด้วยการผลัดเซลล์ผิวพร้อมเติมสารบำรุง
LHALA Peel ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวจากภายใน โดยการส่งสารออกฤทธิ์ลึกลงสู่ผิว
นอกจากคุณสมบัติในการผลัดเซลล์ผิวและควบคุมความมันของ LHA แล้ว ยังมีส่วนผสมของ Psol™ และไขมันดีที่ช่วยเสริมความแข็งแรงของผิว ทำให้ผิวดูชุ่มชื้น สุขภาพดี และยืดหยุ่นมากขึ้น
นอกจากนี้ PRX Peel (หรือที่รู้จักในชื่อ Pépapeel) ซึ่งเป็นทรีตเมนต์ผลัดเซลล์ผิวที่ได้รับความนิยมอีกตัวหนึ่ง ก็มีคุณสมบัติในการผลัดเซลล์และเพิ่มความกระจ่างใสเช่นกัน
โดยมีส่วนผสมหลักคือ PLATINUM, PHA (polyhydroxy acid) และ LHA
ทั้ง LHALA Peel และ PRX Peel ช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อทำเป็นประจำ
-
ผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ระคายเคืองต่ำ แทบไม่ต้องพักฟื้น
การผลัดเซลล์ผิวแบบดั้งเดิมมักเป็นการลอกผิวอย่างรุนแรง ทำให้เกิดการระคายเคือง ลอก หรือไม่สบายผิวได้
แต่ LHALA Peel ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวจากภายใน ทำให้รู้สึกแสบหรือระคายเคืองน้อย เหมาะสำหรับทำได้ตลอดทั้งปี
แม้แต่ผู้ที่เคยรู้สึกไม่สบายหรือเกิดปฏิกิริยาต่อการทำพีลลิ่งในอดีต ก็สามารถรู้สึกผ่อนคลายกับการรักษาที่อ่อนโยนนี้ได้
เนื่องจาก LHALA Peel แทบไม่ทำให้เกิดการลอกผิว จึงเหมาะอย่างยิ่งก่อนออกงานพิเศษ หรือในวันที่ต้องเดินทางหรือช้อปปิ้งทั้งวัน
แทบไม่ต้องพักฟื้น จึงสามารถเผยผิวใสสุขภาพดีได้ โดยไม่รบกวนกิจวัตรประจำวันของคุณเลย
รายการราคา
ลาลาพีล (การผลัดเซลล์ผิว)
| LHALA Peel | 1 ครั้ง | 1,800 บาท |
| 3 ครั้ง | 5,130 บาท | |
| 5 ครั้ง | 8,100 บาท | |
| พลาพีล | เต็มหน้า | 3,200 บาท |
BIBI CLINIC
ทำไมหลายคนจึงเลือกเรา?
-
แนะนำการพีลที่เหมาะกับปัญหาผิวของคุณโดยเฉพาะ
Bibi Clinic ในกรุงเทพฯ ให้บริการด้านความงามคุณภาพญี่ปุ่น ภายใต้การดูแลของคลินิกแม่จากโตเกียว
มีทีมงานที่สามารถสื่อสารได้ทั้งภาษาไทย อังกฤษ และญี่ปุ่น เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์ที่สะดวกสบาย
ตั้งอยู่ในย่านทองหล่อ เดินทางสะดวกแม้ในช่วงระหว่างการช้อปปิ้ง
LHALA Peel ใช้เวลาเพียงประมาณ 20 นาที จึงเหมาะกับผู้ที่มีเวลาจำกัด
เรามีทั้ง LHA Peel และ PRX-T33 ให้เลือก และจะแนะนำสูตรที่เหมาะที่สุดกับปัญหาผิวของคุณ
หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ทุกเมื่อ
-
ทรีตเมนต์แบบผสมผสานเพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น! เพื่อผิวเปล่งปลั่ง ชุ่มชื้นยิ่งขึ้น
ที่คลินิกบิบิ เรายังมอบประสบการณ์การปรับปรุงผิวอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นด้วยการผสมผสาน Larapeel เข้ากับการรักษาความงามอื่นๆ การผสมผสาน Larapeel เข้ากับการรักษายอดนิยมอย่าง IPL, Pico Laser และ Silfirm X ซึ่งใช้ในการรักษาจุดด่างดำและกระชับรูขุมขน จะช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงาน เช่น กระชับรูขุมขน ลดฝ้า กระ และเพิ่มความกระชับ นอกจากนี้ เรายังแนะนำให้ใช้วิตามินเข้มข้นเพื่อบำรุงสุขภาพผิว ช่วยให้ผิวกระจ่างใสและสุขภาพดียิ่งขึ้น
- การทำทรีตเมนต์หน้าใส (Aqua Peel หรือเครื่องพ่นวิตามิน)
- การผลัดเซลล์ผิวร่วมกับ PRX-T33
- การใช้คลื่น RF เช่น Sylfirm X เพื่อยกกระชับ ลดรูขุมขน และกระตุ้นคอลลาเจน
การรักษาแบบผสมผสานนี้จะช่วยให้ผิวกระจ่างใส ฉ่ำวาว ดูสุขภาพดีมากยิ่งขึ้น แพทย์ของเราจะประเมินและออกแบบแผนการรักษาเฉพาะบุคคลให้คุณ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุดตามปัญหาผิวของคุณ
- การทำทรีตเมนต์หน้าใส (Aqua Peel หรือเครื่องพ่นวิตามิน)
ขั้นตอนการบริการ
01
ปรึกษาแพทย์
ระหว่างการปรึกษา แพทย์จะประเมินสภาพผิวและปัญหาของคุณ เพื่อวางแผนการรักษาให้เหมาะสม
แพทย์จะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับหลักการ ข้อดี และขั้นตอนของการทำ LHALA Peel
หากมีคำถามหรือข้อสงสัยใด ๆ สามารถสอบถามได้ตลอด
มีเจ้าหน้าที่ที่สามารถพูดภาษาญี่ปุ่นคอยดูแล เพื่อความสะดวกสบายสำหรับผู้ป่วยชาวญี่ปุ่น
02
หัตถการ
เริ่มต้นด้วยการใช้โฟมทำความสะอาดพิเศษ (LALA Foam) เพื่อขจัดสิ่งสกปรกและความมันส่วนเกินบนผิว
จากนั้นแพทย์จะใช้พู่กันทาสารพีลลิ่ง LHALA Peel ให้ทั่วบริเวณที่ทำการรักษา และตามด้วยสารบำรุงสูตรพิเศษ (LHALA Peel Ultra)
03
การดูแลหลังทำ
หลังจากทำ LHALA Peel เสร็จ จะมีการทาผลิตภัณฑ์เพื่อช่วยปลอบประโลมและฟื้นฟูผิว
หากไม่มีอาการระคายเคือง สามารถแต่งหน้าและใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวตามปกติได้ทันที
เนื่องจากผิวจะดูเรียบเนียนและชุ่มชื้นขึ้นทันทีหลังทำ จึงสามารถใช้ชีวิตประจำวันต่อได้โดยไม่มีข้อจำกัด
| ระยะเวลาในการรักษา | ประมาณ 20 ถึง 30 นาที |
|---|---|
| จำนวนครั้ง | ทุก 2 ถึง 4 สัปดาห์ (ประมาณ 5 ถึง 10 ครั้งต่อคอร์ส) |
| การอาบน้ำและ ล้างหน้า |
สามารถแต่งหน้าได้ในวันเดียวกันหลังทำการรักษา |
| การแต่งหน้า | สามารถแต่งหน้าได้ในวันเดียวกันหลังทำการรักษา |
| ข้อห้ามในการรักษา | ผู้ที่มีการอักเสบของผิวหนังอย่างรุนแรง |
| ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น | อาจมีอาการแดง คัน ผิวแห้ง หรือรู้สึกยุบยิบเล็กน้อยชั่วคราว |
| เกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ใช้: | การทำ LHALA Peel ใช้อุปกรณ์ที่ได้รับการรับรองจาก อย. ประเทศไทย |
คำถามที่พบบ่อย
Q ระหว่างทำ LHALA Peel จะรู้สึกเจ็บหรือไม่?
A
LALA Peel เป็นการรักษาที่มีการระคายเคืองต่ำ และผู้เข้ารับบริการส่วนใหญ่มักไม่รู้สึกเจ็บ
อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล อาจรู้สึกยุบยิบเล็กน้อยขณะทำ
หากรู้สึกไม่สบายหรือมีอาการผิดปกติ กรุณาแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที
Q หลังทำ LHALA Peel จะมีการพักฟื้นหรือผลข้างเคียงใดหรือไม่?
A
คุณอาจมีอาการแดง ผิวแห้ง หรือรู้สึกยุบยิบเล็กน้อยชั่วคราวหลังทำ LALA Peel
แต่อาการเหล่านี้มักจะหายไปได้อย่างรวดเร็ว
หากคุณมีผิวบอบบาง หรือเคยมีผลข้างเคียงจากการทำพีลลิ่งประเภทอื่นมาก่อน
กรุณาปรึกษาเจ้าหน้าที่ของเราก่อนเข้ารับการรักษาได้เลยค่ะ
Q ข้อดีและข้อเสียของ LHALA Peel คืออะไร?
A
ข้อดีหลักอย่างหนึ่งของ LALA Peel คือการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน โดยไม่ลอกผิวชั้นบนออกอย่างรุนแรง
จึงช่วยลดการระคายเคืองและความเครียดต่อผิว
แม้ว่าจะเป็นการรักษาที่อ่อนโยน แต่ก็อาจมีอาการแดงหรือผิวแห้งชั่วคราวเป็นผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้
Q ควรทำ LHALA Peel บ่อยแค่ไหน และต้องทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล?
A เราขอแนะนำให้ทำการรักษาทุก 2 ถึง 4 สัปดาห์ โดยรวมประมาณ 5 ถึง 10 ครั้งเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด บางคนอาจเห็นการเปลี่ยนแปลงหลังทำเพียงครั้งเดียว แต่ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปตามสภาพผิวของแต่ละบุคคล
Q มีกรณีใดบ้างที่ไม่แนะนำให้ทำ LHALA Peel? ควรระวังอะไรบ้างก่อนทำ?
A
หากคุณมีอาการอักเสบของผิวอยู่ในขณะนั้น อาจไม่แนะนำให้ทำ LALA Peel
กรุณาหลีกเลี่ยงการตากแดดจนผิวไหม้ การโกนหน้า และการใช้สครับผลัดเซลล์ผิวก่อนเข้ารับการรักษา
เพื่อลดโอกาสการระคายเคืองผิวค่ะ
Q ต้องมีการเตรียมตัวหรือดูแลผิวก่อน/หลังทำ LHALA Peel หรือไม่?
A
หลังการรักษา ควรรักษาความชุ่มชื้นของผิวอย่างสม่ำเสมอ และทาครีมกันแดดเป็นประจำ
หากคุณกำลังใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของกรดวิตามินเอ (tretinoin หรือ retinol)
กรุณาปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับการรักษา
Q LHALA Peel ต่างจาก PHA Peel อย่างไร?
A
ทั้ง LALA Peel และ PRX Peel เป็นทรีตเมนต์ฟื้นฟูผิวที่เจ็บน้อยและไม่ต้องพักฟื้นมาก
LALA Peel เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผิวชุ่มชื้น อิ่มฟู และฉ่ำวาว
ส่วน PRX Peel จะช่วยให้ผิวดูกระจ่างใส โปร่งแสงมากยิ่งขึ้น
ทั้งสองทรีตเมนต์สามารถทำซ้ำได้ถี่ที่สุดทุก 1 สัปดาห์ สำหรับการดูแลผิวอย่างเข้มข้น
ที่ Bibi Clinic กรุงเทพฯ เรามีให้บริการทั้งสองแบบ หากสนใจสามารถเข้ามาปรึกษาเราได้เลยค่ะ
หากคุณต้องการรับบริการด้วยลาลาพีล
BIBI CLINIC
สถานที่ตั้ง
27 3rd Floor, Room 306, Sukhumvit 55 (Thonglor), Khlong Tan Nuea, Wattana, Bangkok, 10110
แผนที่ Googleบล็อก
-

การฉีดกรดไฮยาลูโรนิกที่ปลายจมูกอันตรายจริงหรือไม่? ข้อควรรู้และวิธีการรักษาของคลินิกไทย-บีบี
เพียงแค่ปรับรูปทรงปลายจมูกเล็กน้อย ก็สามารถเปลี่ยนความประทับใจของใบหน้าทั้งหมดได้อย่างน่าทึ่ง อย่างไรก็ตาม เมื่อค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต คำว่า "ปลายจมูก กรดไฮยาลูโรนิก อันตราย" มักปรากฏขึ้น ทำให้หลายคนรู้สึกกังวล ดังนั้นในครั้งนี้ เราจึงจะมาพูดถึงการฉีดกรดไฮยาลูโรนิกที่ปลายจมูก […]
-

【การเลือกคลินิกในกรุงเทพฯ】จุดสำคัญเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดในการทำศัลยกรรมความงาม|ความใส่ใจของ Bibi Clinic ที่ผู้หญิงญี่ปุ่นสามารถมาใช้บริการได้อย่างมั่นใจ
การเลือกคลินิกในกรุงเทพฯ ประเทศไทย เป็นหัวข้อสำคัญสำหรับผู้หญิงญี่ปุ่นที่กำลังพิจารณาการแพทย์ความงาม ในประเทศไทยที่เป็นประเทศที่มีชื่อเสียงด้านความงาม แม้ว่าจะมีตัวเลือกการรักษาที่หลากหลาย แต่เนื่องจากความแตกต่างทางภาษาและความรู้สึกด้านความงาม ทำให้หลายคนลังเลว่าจะเลือกคลินิกไหนดี […]
-

【คลินิกเสริมความงามในกรุงเทพฯ】บริการภาษาญี่ปุ่นที่มั่นใจได้! Bibi Clinic ให้บริการความงามแบบญี่ปุ่นที่ดูเป็นธรรมชาติและหรูหรา
เมื่อคุณกำลังมองหาคลินิกเสริมความงามในกรุงเทพฯ หลายคนอาจสงสัยว่า "มีคลินิกเสริมความงามที่พูดภาษาญี่ปุ่นได้ไหม?" หรือ "กังวลว่าจะสามารถบอกความต้องการเกี่ยวกับผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจนหรือไม่?" ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความเจริญก้าวหน้าทางการแพทย์เสริมความงามอย่างมาก และมีตัวเลือกในการรักษาที่หลากหลาย อย่างไรก็ตาม ภาษาและความรู้สึกด้านความงาม […]
-

การฉีดโบท็อกซ์ที่มุมปากเพื่อเพิ่มรอยยิ้มที่ดูเป็นธรรมชาติและอ่อนโยนที่ Bibi Clinic กรุงเทพฯ
การฉีดโบท็อกซ์ที่มุมปากช่วยลดปัญหา "ดูเหนื่อยล้า" "ยิ้มแล้วมุมปากไม่ยก" "ร่องแก้มเด่นชัด" และทำให้ใบหน้าดูสดใสขึ้น เป็นหนึ่งในวิธีดูแลผิวพรรณที่ได้รับความนิยมในกรุงเทพฯ ประเทศไทย ซึ่งมีตัวเลือกทางการแพทย์ความงามมากมาย […]
LINE